ตาข่ายกันนก จำหน่ายตาข่ายกันนก บริการรับติดตาข่ายกันนกกระจอก รับติดตาข่ายกันนกพิราบ ติดตาข่ายคอนโด ติดตาข่ายระเบียง ติดตะแกรงกันนกพิราบ จำหน่ายอุปกรณ์ใช้ติดตาข่ายกันนก ขายตาข่ายกันนก
ปัญหา นกเข้ามาสร้างความรำคาญ ในที่พักอาศัย โรงงาน อาคารสำนักงาน สามารถขจัดได้หลายวิธี เช่น 1. หนามกันนกเกาะ เหมาะใช้ติดตาม ขอบบัวเหนือหน้าต่าง , ขอบลาวกันตก , ที่แคบๆ ที่ติดตาข่ายไม่ได้ ข้อดี : ตัวหนามกันนก เป็นลวดสแตนเลสจึงมีความคงทนมาก (ถ้าตัวฐานที่เป็นพลาสติกไม่พังไปซะก่อน) ข้อเสีย : ราคาคอนข้างสูง และ การหวังผลอาจไม่ 100% เพราะ เมื่อใช้กับนกบางตัว จะสามารถกันนกเกาะได้ โดยนก เมื่อติดตั้งไปแล้ว นกไม่มาเกาะอีกเลย แต่ ก็ไม่เสมอไป เช่น ในบางสถานที่ หรือ กับนกบางตัว ก็กันไม่ได้ เพราะ นกบางตัว ฉลาด มันจะคาบเศษ ใบไม้ หญ้าแห้งมาทิ้งลงบนหนามไล่นก ให้มากพอที่มันจะกลายมาเป็นรังของมันได้ 2. เจลกันนกเกาะ มีลักษณะเหนี่ยว เวลานกเกาะ จะติดขานก ติดตามตัวนก ทำให้นกรำคาณไม่มาเกาะอีก ข้อดี ราคาไม่สูง แต่ ก็มี ข้อเสี คือ ความเหนี่ยวของเจล ทำให้นกบางตัวดินไม่หลุด และ ตาย สงกลิ่นเหม็น แถม เป็นที่เกาะของฝุ่นผง เศษข้นนก และ อื่นๆ 3 การกันตาข่ายกันนกเข้าภายในบริเวณที่อยู่อาศัยของคนก็เป็น วิธี หนึ่ง ที่ได้ผลดี ไม่ฆ่าทำลายชีวิตนก การที่นกเข้ามาภายใน อาคารได้นอกจากจะ มาแอบกินธัญพื้ชที่เก็บไว้ สร้างเสียงรบกวน สร้างรัง ถ่ายมูลส่งกลิ่นเหม็นแล้ว ยังแพร่เชื้อโรค(หวัดนก) พวกไร หนอนต่างให้ด้วย เมื่อตอนที่ทาง กทมดักจับนกพิราบที่สนามหลวง ก็ได้เห็นว่านกบางตัวเป็นโรค บางตัวมีพยาทเกาะตามมูลนก น่ายะแยงมาก นกกระจอกเองก็เป็นตัวสร้างปัญหาเช่นกันแต่น้อยกว่านกพิราบ ตาข่ายที่ติดกันนกเข้ามารบกวน มีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น
ตาขายแบบเอ็นใส ขนาดหนา ประมาณ 0.1 - .4 มม ขนาดตา 1.5 ซม 1.5 นิ้ว ข้อดี เนื่องจากตัวตาข่ายใส จึงทำให้มันเข้ากับฉากหลังได้ดี ไม่ทำให้ภาพทัศน์ของตัวอาคารเสียหาย มองไกล ๆ จะมองแทบ ไม่เห็นตาข่าย เหมือนกับว่าไม่มี ตาข่ายอยู่ในพื้นที่ ข้อเสีย ราคาตาข่ายคอนข้างสูงมาก หากติดตาข่ายกันนกเพียงห้องเดียวจะไม่คุ้มค่าเลย อายุการใช้งานค่อนข้างสั้น ถ้าเป็นตาข่ายเอ็นใส แบบบางอยู่ในระหว่าง 2 - 3 ปี ก็จะกรอบฉีกขาดได้ง่าย แต่ ถ้าเป็น ตาข่ายเอ็นใสแบบหนา จะสามารถใช้ได้นานขึ้นอีก ประมาณ 4 - 6 ปี (ตัวการที่มีส่วนทำให้อายุสั้น เช่น แสงแดด ลมร้อนจากคอมเพรสเซอร์แอร์) ข้อเสียอีกอย่าง คือ นอกจะ ราคาสูงแล้ว ยังหายากด้วย ใน 1 ปี โรงงาน จะผลิตเพียงครั้ง หรือ สองครั้ง/ปี เท่านั้น ไม่สต๊อคสินค้า เพราะมีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เท่านั้นที่ใช้ ตัวอย่าง ตาข่ายกันนกใส แบบเส้นเชือกบาง (แบบบางแทบไม่มีใครใช้ เลยไม่มีตัวอย่างให้ชม) ตัวอย่าง การติดตาข่ายแบบเอ็นใส (แบบหนา)
ตาข่ายแบบไนลอน
พลาสตริกที่ใช้จะเป็น โพลีเอสเตอร์ (เนื้อเหมือนด้ายที่ใช้เย็บผ้า) มีหลายสี แต่ที่นิยมก็คือ สีขาว เพราะอาคารโดย ส่วนใหญ่จะใช้สีขาว จึงเข้ากับสีตัวอาคารได้ดี ความหนามีหลายขนาด ประมาณ .8 มม. ขึ้นไป ขนาดตาที่นิยมประมาณ 1.5 มม.
ข้อดี มีความเหนียวทนต่อแรงดึงได้ดี มีสีขาวทำให้เข้ากับอาคารสีขาวได้ดี ติดไปแล้ว มองแทบไม่เห็นตาข่าย ข้อเสีย กลัวแดด อายุสั้น พอเลย 2 - 3 ปี ไปจะกรอบและขาดง่าย หมายความว่า ถ้าติดตาข่ายประเภทนี้ ทุก ๆ 2 - 3 ปี ต้องเตรียม งบสำหรับ รื้อตาข่ายเก่าออก และ ติดตาข่ายอันใหม่ แทบไม่มีใครใช้
ตาข่ายแบบลวด ตัวตาข่าย หรือ ตะแกรง ทำจากโลหะชุบกาวไนด์ ถ้าเป็นของจีน สารที่ชุบมักจะหลุดง่าย ถ้าเป็น ไทย การชุบจะดีกว่า ทนทานกว่า ข้อดี ทนแรงดึงได้ดี ไม่กลัวลมร้อนจากคอมเพรสเซอร์แอร์ ความสวยงามก็พอสมควร ข้อเสีย กลัวน้ำฝน เป็นสนิมได้ถึงแม้ว่า ทางโรงงานจะชุบกาวไนด์มาแล้วด้วย (สารป้องกันสนิม) อายุการใช้งานประมาณ 2 - 3 ปี แต่หากว่า ไม่โดนน้ำฝนเลย ก็จะสามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นอีก ดังนั้น ตาข่ายนิดนั้ จึงเหมาะติดตั้งในที่ร่ม ที่ไม่โดนฝน หรือ ความชื้น ข้อเสียอีกอย่างคือ ในการติดตั้งบางลักษณะ จะยากกว่าแบบอื่น ๆ
ตาข่ายแบบกรงไก่ มีสองแบบ คือแบบที่เป็น พลาสตริก ชนิด PP. ปรกติน่าจะทนทาน แต่ถ้า ติดคั้งภายนอกอาคารโดย โดนแดด มันจะกรอบง่าย อยู่ได้ ประมาณ 2 - 3 ปี ราคาปานกลาง ทนแรงดึงไม่ดีนัก เหมาะที่จะติดตั้งในระดับไม่สูงนัก และ ตาข่ายแบบที่เป็น HDPE จะมีความทนทานกว่ามากเป็น 10 ปีขึ้นไป (ข้อมูลตามที่ ผู้จัดจำหน่ายได้กล่าวไว้) ทาง บริษัทฯไม่เคย ติดตั้งตาข่าย แบบนี้เพราะ ลูกค้าบอกว่าราคาสูงเกินไป
ตาข่ายกรงไก่ เนื้อพลาสติกเป็นแบบ PP (พ๊อบเพอลีน) ขนาดตา 2 ซม.มีอายุการใช้งานยาวนาน ประมาณ 2-3 ปี ตัวอย่าง อาคารที่ใช้ตาข่ายชนิด pp
ตาข่ายแบบ โพลีเอสธิลีน ถ้าติดตั้งเพื่อใช้สนาม สนามกอร์ฟ สนามฟุตบอล นิยมติดตาข่ายที่มีเส้นเชือกที่หนา ประมาณ 2 - 3 มม. มีสีเขียวขี้ม้า สีฟ้า สีดำ มีความ คงทนสูง แต่ถ้า ใช้สำหรับ การติดตาข่ายกันนก นิยมใช้ ตาข่ายที่มีความหนาประมาณ 0.6 - 0.8 มม. ขนาดตา 1.5 -2.0 ซมเท่าที่ทน ติดตั้งมา มันสามารถใช้ได้ 8 - 10 ปี ความหนาขนาดนีเพียงพอแล้ว สำหรับ การติดตั้งเพื่อใช้กันนกทุกชนิด ทนทั้งแดด ทนทั้งแรงลม ข้อดี ค่อนข้างทนแดดได้ดีกว่าตาข่ายที่ผลิตจากพลาสตริกตัวอื่นๆ ทนแรงดึงได้ดี จึงเหมาะติดตั้งได้ทั้งที่สูงๆ และ ที่ไม่สูง ราคากลางๆ ไม่แพงมาก ติดตั้งไม่ยาก จึงเป็น ตาข่ายที่เหมาะที่สุด ที่จะใช้ เพื่อการป้องกันนกเข้ามาในพื้นที่
ตาข่ายแบบ โพลีเอสธิลีน สีดำ เบอร์ 8 ขนาดตา 1.5 - 2.0 ซม.
ตาข่ายแบบ โพลีเอสธิลีน สีเขียวขี้ม้า เบอร์ 18 มีขนาดตา และ ขนาดหนา หลายขนาด นิยมเอาไปติดในสนามฟุตบอล.
|